Tuesday, June 1, 2010

abstain from harming living beings

อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

เป็นไปได้ไหมที่เจ้ากรรมนายเวรจะโกรธ ผูกพยาบาทและตามทวงหนี้เรามากกว่าหนี้ที่เราก่อไว้จริงๆ
เป็นไปได้ และส่วนมากเจ้ากรรมนายเวรมักจะตามทวงหนี้มากกว่าหนี้ที่เราก่อไว้เสมอ
อย่างพระเทวทัต ตามจองเวรพระโพธิสัตว์ (พระพุทธเจ้า) ตั้งไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ
เพียงแค่เพราะในอดีตชาติพระโพธิสัตว์ได้ไปซื้อถาดทองคำจากชาวบ้าน ตัดหน้าพระเทวทัต
ด้วยการให้ราคาที่สูงกว่า เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านเสียเปรียบพระเทวทัต

เรื่องอย่างนี้ขึ้นอยู่กับ โลภะ โทสะ และโมหะของคู่เวร
ถ้าเจ้ากรรมนายเวรมีกิเลสดังกล่าวรุนแรง
เวรย่อมรุนแรงตามกิเลส
ทำให้เราต้องใช้กรรมหนักกว่าที่เราก่อไว้


หากเราขออโหสิกรรมก็แล้ว อดทนก็แล้ว
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาก็แล้ว
แต่เวรกรรมยังไม่หมดไป
เราควรปฏิบัติต่อหนี้เวรหนี้กรรมทั้งหลายอย่างไร
1) ชดใช้หนี้เวรหนี้กรรมให้หมด
2) ทำบุญใหญ่ (ปฏิบัติธรรม) แล้วอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
3) ทำดีหนีหนี้
4) หนีเข้านิพาน (กรรมที่เคยก่อไว้จะกลายเป็นอโหสิกรรม ไปโดยปริยาย)

พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนว่า ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนพาล
ไม่ต้องเสียเวลาไปขออโหสิกรรม
เพราะขอไปก็ไร้ประโยชน์ เขาไม่ยกโทษให้หรอก

ที่มา: http://www.kanlayanatam.com/news_letter/jan10/Varasan18.pdf

No comments:

Post a Comment