Sunday, December 13, 2009

Funeral

ความจริงแล้วปริศนาธรรมเกี่ยวกับเรื่องงานศพนั้นมีอยู่หลายข้อ
ซึ่งก็สงสัยอยู่เหมือนกันตั้งแต่เด็กมาแล้ว
แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยเล่าให้ฟังเลย
เหมือนกับว่าเขาให้ทำก็ทำกันไป โง่อยู่ตั้งนาน
พอได้มาอ่านหนังสือธรรมลีลา
ของธรรมสภาแล้วก็ตาสว่างขึ้น มีอีกหลายข้อดังนี้ค่ะ

1. มัดตราสังข์สามเปราะ มัดที่คอ หมายถึง บ่วงรักลูก
2. มัดที่มือหมายถึงบ่วงรักสามี - ภรรยา
3. มัดตรงข้อเท้า หมายถึง บ่วงรักทรัพย์สมบัติ
ติดอยู่สามบ่วงนี้ ไปนิพพานไม่ได้ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏไม่มีจบสิ้น

2. เคาะโลงรับศีล ไม่ใช่ให้คนตายมารับศีล
แต่เพื่อเป็นการบอกคนที่มาร่วมงานว่า อย่าเอาแต่มัวประมาทขาดสติ
ไม่สนใจในหลักธรรมคำสอน
เมื่อตายไปหมดโอกาสทำความดี จะเคาะจนโลงแตกก็ลุกขึ้นมาไม่ได้

3. สวดอภิธรรม มักสวดเป็นภาษาบาลี คนเป็นฟังไม่รู้เรื่อง
จึงนึกว่าสวดให้คนตาย แต่จริง ๆ
แล้วเป็นการสวดเพื่อสอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้นำ
หลักธรรมไปปฏิบัติให้เกิดผลดีในชีวิตประจำวัน
ดังนั้นแม้จะฟังไม่เข้าใจแต่
เพื่อให้การฟังสวดอภิธรรมเกิดผล
ควรสำรวมส่งจิตไปอยู่กับเสียงพระสวด
ให้จิตสงบนิ่งอยู่กับเสียงพระสวดก็จะเกิดสมาธิจิตได้

4. บวชหน้าไฟ มักเข้าใจกันว่า เป็นการบวชจูงผู้ตายขึ้นสวรรค์
ความจริงนั้นไม่ใช่ เพราะการบวชหน้าไฟเป็นการปลงธรรมสังเวชต่อการเกิด แก่
เจ็บและตายในที่สุด มนุษย์ก็มีเท่านี้
ทำให้เกิดการเบื่อหน่ายต่อชีวิตในโลกียวิสัย
ไม่ประสงค์จะอยู่ในเพศฆราวาส แล้วพอใจในสมณะเพศ
มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เข้าสู่มรรคผลนิพพาน

5. การนิมนต์พระจูงออกหน้าศพ
เพื่อจะสอนคนที่ยังอยู่ให้ได้สำนึกว่าตอนที่
ยังอยู่ต้องเดินตามหลังพระ
หมายความว่าให้ดำเนินชีวิตตามพระธรรมคำสั่งสอนพระพุทธเจ้านั่นเอง
จึงจะอยู่ดีมีสุข มีความเจริญก้าวหน้า

6. การเวียนซ้าย 3 รอบ หมายถึง
การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้งสามอันมี
กามภพ รูปภพ อรูปภพ ด้วยอำนาจกิเลสตัณหาอุปทาน
ก็จะเป็นทุกข์ไม่จบสิ้น
ฉะนั้นต้องทวนกระแสกิเลส เป็นการสอนธรรมชั้นสูงจึงได้พาศพเวียนซ้าย

7. การใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ เพื่อชี้ให้เห็นว่า
น้ำมะพร้าวเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์
ผู้เข้าสู่มรรคผลนิพพานต้องชำระจิตให้สะอาดด้วยน้ำทิพย์จากพระธรรม

8. การแปรรูป หลังจากเผาแล้ว มีการเก็บอัฐิและมีการเขี่ยขี้เถ้าผู้ตายให้
เป็นรูปร่างกลับไปกลับมาเพื่อจะบอกว่าได้กลับชาติใหม่แล้ว
ตามวิบากของกรรมต่อไป

จากวารสารธรรมลีลาเพื่อดุลยภาพของสังคม
(Fwd Mail)

No comments:

Post a Comment