Sunday, December 13, 2009

Sermon_1

เทศน์ช้าไปหน่อย
============
วันก่อนอาตมาไปเทศน์ในคุก
อาตมาบอกว่า..พวกเราที่มาติดอยู่ในคุกเนี่ย...เราไม่ได้ติดคนเดียวนะ
..เราเอาพ่อเอาแม่มาติดด้วย
พ่อแม่ต้องลำบากตรากตรำ
หาเงินมาซื้อข้าวปลาอาหาร ข้าวของ เครื่องใช้
และค่ารถค่าเดินทางที่จะมาเยี่ยมเราทุกอาทิตย์...
และเรายังทำร้ายจิตใจท่าน
ให้ต้องทุกข์ทรมานตลอดเวลาจนกว่าเราจะพ้นโทษ....

นักโทษคนหนึ่งมันสำนึกบาป ร้องไห้โฮ อย่างไม่อายใคร...
ท่านทำไมเพิ่งจะมาเทศน์ตอนนี้ ทำไมท่านไม่เทศน์ก่อน ที่ผมจะทำชั่ว
ไอ้พวกนี้..เวลามันทำชั่วทำอะไรไม่ดี มันโยนให้พระหมด
อาตมาเทศน์มาตั้งนานแล้ว โยมไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่มาฟังเอง.....

โสเภณีที่รัก
========
วันหนึ่งมีคนมานิมนต์ให้ไปเทศน์ให้โสเภณีฟัง
ตั้งแต่บวชมา.. เพิ่งจะเจอครั้งนี้แหละ...มันเทศน์ยากพิลึก
พอไปถึง ทุกคนมองพระเหมือนตัวประหลาด
เข้ามาทำไมวะเนี่ย
พอนั่งปุ๊บ..มองไปรอบๆ..ไม่มีใครสนใจสักคน
....คิดในใจว่า.. จะเอาสูตรไหนมาเทศน์สู้กับมันดีวะเนี่ย
..... ทำใจดีสู้เสือ
เริ่มต้นคำแรกว่า....
"สวัสดีน้องหญิงผู้มีวาสนาสูง.."
ได้ผลแฮะ...ได้ผลดีเกินคาด
ทุกคนหันมามอง ตั้งใจฟังหูผึ่งว่าพระจะพูดอะไรต่อ
ได้โอกาส..
พระเลยปล่อยไม้เด็ดเลย
"ผู้ขายของเก่ากินโดยไม่ต้องลงทุน"
เมื่อน้องหญิงอยู่ที่บ้าน
คนทั่วไปจะเรียกน้องหญิงอย่างยกย่องว่า.. กุลสตรี
ยกย่องว่า เป็นเพศแม่

แต่พอน้องหญิงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้ ความเป็น กุลสตรี
ความสูงส่งของเพศแม่ มันถูกทำลายไป
เขาเรียกน้องหญิง ว่า...อีตัว....
เวลาเขาจะหาความสุข จากเรือนร่างเธอ..
เขามารับเธอไป..เขาไม่ได้พูดให้เกียรติ เธอเลย
แทนที่เขาจะบอกว่ามาเชิญเธอไป
เขากลับใช้คำว่าหิ้วไป
ใช้คำว่า หิ้ว เห็นเราเหมือนเป็ดเหมือนไก่ ไม่ให้เกียรติเราเลย
เราน่าจะกลับไปอยู่บ้าน ใช้ชีวิตทำมาหากินเหมือนเดิม ถึงแม้จะไม่ร่ำรวย
จึงสนทนาสอบถามเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ
น้องหญิงหลายคนสักตุ๊กแกไว้ที่ต้นแขน..
สักทำไมหรือ..
อ๋อ..เวลาผู้ชายมาใช้บริการ จะได้จับผู้ชายให้ติด
เพราะตุ๊กแกขามัน เหนียวเกาะแน่น แกะไม่หลุด...
โอ..หลักการดี อาตมาเลยแกล้งหยอกไปว่า
ตุ๊กแกมันเกาะแต่ผู้ชายอย่างเดียวหรือ
มันเกาะเอาซุปเปอร์ โกโนเลียมาด้วย หรือเปล่า
ทุกคนเงียบกริบ รอยยิ้มเริ่มหายไป
...บรรยากาศชักไม่น่าลงทุนแล้ว...อาตมาเลยถามต่อ
อ้าว...แล้วบางคนที่สักขอกับเคียวไว้ที่ต้นแขนละ
มีความหมาย ว่าอย่างไร
ก็เอาไว้เกี่ยวสตางค์จากกระเป๋าคนมาเที่ยวไงเจ้าคะ..
เออ..คนเรานี่มันโง่ดี..ถ้าสักขอกับเคียวแล้วมันเกี่ยวสตางค์ได้จริง
คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องมัวเหนื่อยไปทำมาหากินหรอก
สักขอกับเคียวไห้เต็มตัวก็รวยแล้ว

ล้างแค้น
======
มือปืนเมืองเพชร...เมาแอ๋เข้ามาหาพระ
มันชูปืนขึ้น..แล้วเดินเป๋ เข้ามา
หลวงพี่เห็นชายอาการท่าทางเมาเดินควงปืนมาแต่ไกล
หลวงพี่ก็เลยโดดหลบเข้าข้างเสา เพราะพระก็เสียวเป็นเหมือนกัน
มันบอกว่า
หลวงพี่ต้องเป็นพยานให้ผมด้วย...
ไอ้แคล้วมันฆ่าพ่อผมตาย..
ผมขอสาบานต่อหน้าพระว่า
ผมจะต้องล้างแค้นให้ พ่อผมให้ได้...
ถ้าผมฆ่าไอ้แคล้วไม่ได้..
ชีวิตนี้นอนตาไม่หลับ
หลวงพี่โผล่ออกมาจากเสา..แล้วบอกว่า..
สาธุ..ขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยที่คิด จะล้างแค้น
คนทั้งศาลาหันมามองหน้าพระเป็นตาเดียว...
โธ่...ก็มันถือปืนส่ายอยู่อย่างนั้น
จะให้พระ ทำยังไง...
น่าจะเห็นใจพระบ้างนะ..

อาตมาก็พูดกับมือปืนต่อว่า....
ล้าง..หมายถึง..ทำให้สะอาด
การล้างแค้นเป็นเรื่องดี
เรามีความแค้น..แสดงว่า..ความแค้น มันมาเปื้อนจิตใจเรา..
การล้างแค้น...คือ ล้างที่จิตใจของเราให้สะอาด..
ให้ความแค้นมันหมดไปจากใจเรา...
การไปยิงเขาตายอีก...
เป็นการเพิ่มความแค้น...
ลูกหลานเขาก็ตามจะมายิง มาฆ่า เราอีก..
วนเวียน อย่างนี้ไม่จบสิ้น
การล้างแค้น..จึงเป็นการอโหสิกรรม..หมดเวรหมดกรรม
อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วย...
พูดเสร็จพระก็หลบไปยืนบังเสาไว้
พระไม่กลัวมันหรอก..แต่ พระไม่ประมาท

เจ๊กหมดทุน
========
มีชายคนหนึ่งอยู่สุไหงโกลก..ชื่ออาฮัง..
อาฮัง หรือ เจ๊กฮัง ค้าขายขาดทุนปีเดียวสามสี่แสนบาท
ลงทุนทำกิจการอะไร ก็ขาดทุน
พอขาดทุนทีไม่เป็นอันทำมาหากินเลย ครั้งสุดท้าย
ขาดทุนสี่แสนก็มานั่งทำท่าเหมือนลิงป่วย
หมดแรง หมดอาลัย ตายอยาก
พูดพร่ำอยู่คำเดียวทั้งวัน
อั๊วขาดทุนหมดแล้ว อั๊วขาดทุนหมดแล้ว
จนญาติๆ ระอา ไม่รู้จะทำอย่างไร
เลยหามมาส่งที่วัดสวนโมกข์...
อาตมาอยู่สวนโมกข์ได้ 7 ปี พอดี
ปรากฏว่ามันก็มานั่งที่ตรงหินโค้ง
นั่งเป็นทุกข์ในท่าเจ๊กหมดทุน ท่าเดิม
นั่งบ่น..อั๊วเจ๊งหมดแล้ว..อั๊วขาดทุนหมดแล้ว
อาจารย์พุทธทาสก็เลยเข้าไปถามว่า ฮัง...ลื้อขาดทุนแน่หรือ
แน่ซิครับ สี่แสนปีเดียวหมดเกลี้ยง ผมขาดทุนย่อยยับหมดเลย
คิดให้ดี...ขาดทุนจริงๆ นะเหรอ....
จริงซิครับ...อย่ามาถามยั่วโทสะผมนะ......
อาจารย์พุทธทาสก็เลยถามต่อว่า
โยมอาฮัง...ที่ลื้อบ่นขาดทุน..ขาดทุนนี่
ลื้อเกิดมา ลื้อมีทุนติดตัวมาเท่าไร
วันที่ลื้อเกิดมานะ
อาฮังนั่งคิดอยู่พักหนึ่ง
เอ๊ะ..ใครมันจะไปดึงทุนออกมาจาก
ท้องแม่ได้ในวันเกิดนะ พระนี่ถามอะไรแปลกๆ...
อาฮังตอบว่า ..ไม่มี..
อาจารย์พุทธทาสท่านก็ถามต่อ...เดี๋ยวนี้หม้อหุงข้าวลื้อมีไหม....
หม้อหุงข้าวมี..
เสื้อผัามีใส่ไหม...
มี...
บ้านมีอยู่ไหม....
มี...
ถามอะไรต่อมิอะไร..มันก็ตอบว่า..มีๆๆ...
อาจารย์พุทธทาสท่านจึงบอกว่า
อาฮัง...ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก ลื้อมี
อาตมาถามต่อ
ตัวมีเสื้อผ้าติดมาด้วยหรือเปล่า
มีบ้านช่องอย่างนี้ไหม
อาฮังได้คิด ตอบว่าไม่มี เกิดมาก็มาตัวเปล่า
อาตมาจึงบอกว่าเกิดมาแต่ตัว
ที่มีติดตัวอยู่ทุกวันนี้ลื้อว่า ขาดทุนอีกหรือ
ลื้อคิดซิว่า ลื้อไม่ได้ขาดทุนหรอก
เพียงแต่กำไร มันลดลงไปนิดหน่อยเท่านั้น

No comments:

Post a Comment