Saturday, February 13, 2010

What kind of human do you want to be, Phoenix?

ขอให้มาพิจารณาถึงปีที่ผ่านมาว่าตนเองได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง
มีอะไรที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง
โดยเฉพาะให้พิจารณาตัวเองว่าเป็นมนุษย์จำพวกไหน
ในมนุษย์ ๔ จำพวก คือ

๑. มนุสฺสเปโต ได้แก่ มนุษย์เปรต
หมายถึง คนที่มีร่างกายพิกลพิการมีอาการไม่ครบ ๓๒
ต้องขอทานเลี้ยงชีวิต เป็นอยู่ลำบากและอด ๆ อยาก ๆ
ซึ่งคล้ายกับลักษณะและความเป็นอยู่ของเปรต

๒. มนุสฺสติรจฺฉาโน ได้แก่ มนุษย์ดิรัจฉาน
หมายถึง คนที่มีร่างกายสมประกอบ มีอาการครบ ๓๒
มีกำลังเรี่ยวแรง สติปัญญา
แต่ไม่ทำการงานเลี้ยงชีพเอง คอยแต่อาศัยผู้อื่นกินไปวัน ๆ
มีพฤติกรรมเหมือนสัตว์เลี้ยง

๓. มนุสฺสเนรยิโก ได้แก่ มนุษย์สัตว์นรก
หมายถึง คนที่มีความประพฤติหยาบช้ากระทำการทารุณเบียดเบียนฆ่าฟันผู้อื่น
หากินโดยโจรกรรม ฉ้อสงฆ์ บังศาสน์ ฉ้อราษฎร์ บังหลวง ประกอบอาชีพไม่สุจริต
จนในที่สุดต้องติดคุกติดตะรางเหมือนสัตว์นรก

๔. มนุสฺสภูโต ได้แก่ มนุษย์แท้
หมายถึง คนที่มีความประพฤติดีงาม รักษาศีล ๕ โดยเคร่งครัด
ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนและคนอื่น

๕. มนุสฺสเทโว ได้แก่ มนุษย์เทวดา
หมายถึง คนที่มีความประพฤติดีเยี่ยม มีหิริ คือความละอายต่อบาป
โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป ทั้งมีนิสัยบำเพ็ญทาน รักษาศีล

ที่มา: พระราชสุทธิญาณมงคล


ในหลักธรรมะ ท่านได้วางหลักให้พิสูจน์ตัวเองมีอยู่ ๔ ประการ

๑. มนุสสมนุสโส กายเป็นมนุษย์ จิตใจก็เป็นมนุษย์
๒. มนุสสติรัจฉาโน กายเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเดรัจฉาน
๓. มนุสสเทโว กายเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเทวดา
๔. มนุสสเปโต กายเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเปรต


กายเป็นมนุษย์จิตใจเป็นมนุษย์
...
มนุษย์นี้เป็นสิ่งสูงสุด เป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ผู้สามารถใช้ความฉลาดนั้นไม่มีอะไรเหนือมนุษย์
มนุษย์ทำได้ทุกอย่าง
มนุษย์สามารถสร้างได้แม้กระทั่งพระพุทธเจ้า พระพรหม เทพ เปรต อสุรกาย ทั้งสัตว์เดรัจฉาน อยู่ในตัวมนุษย์นี้ทั้งนั้น
เมื่อพูดถึงตัวของมนุษย์ เรามีกาย มีรูปร่างเป็นมนุษย์
เราทดสอบดูจิตใจของเราเองว่าเราเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์หรือไม่
โดยนิสัยของมนุษย์จะต้องมีความเมตตา มีความปรารถนาดีต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตด้วยกัน นี้เป็นประการหนึ่ง
มนุษย์มีความปรารถนาที่จะช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ยากลำบากให้คนอื่นและสัตว์อื่น นี้เป็นคุณสมบัติของมนุษย์
เมื่อสรุปแล้ว มนุษย์ผู้มีศีล ๕ สมบูรณ์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก
ใครก็ตามมีศีลมีธรรม มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา มีความรัก ความปรารถนาดีในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ผู้นั้นร่างกายเป็นมนุษย์ ใจก็เป็นมนุษย์สมบูรณ์
ตามหลักพระศาสนาท่านว่า ศีล ๕ คือ มนุษยธรรม คือธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นมนุษย์

มนุสสติรัจฉาโน
โกรธ เคียดแค้น
คิดอยากจะละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน ทรัพย์สมบัติ
บุคคลอยู่ในความคุ้มครองของบุคคลอื่น
ถ้าหากท่านมีความคิดเช่นนี้ เป็นความคิดที่ปราศจากกฎหมายและศีลธรรม
...
ในขณะนั้นร่างกายของท่านเป็นมนุษย์ แต่จิตใจของท่านเป็นเดรัจฉาน

มนุสสเทโว
ถ้าในขณะใดจิตของท่านมีความสงบเยือกเย็น มีความละอายต่อบาป
มีความสะดุ้งกลัวต่อบาป ไม่กล้าที่จะทำบาปทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง
ในขณะนั้นจิตใจท่านเป็นเทวดา แม้ว่ากายของท่านจะเป็นมนุษย์ก็ตาม

มนุสสเปโต
ท่านเคยมีความคิดเกียจคร้านต่อการงาน ไม่สนใจ ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน
คอยหลบหลีกงานในหน้าที่
แสดงถึงจิตใจของท่านปล่อยวางละประโยชน์ที่พึงได้พึงถึงให้เวลามันผ่านไปโดยไม่ได้อะไรอย่างเต็มที่
ถ้าความคิดเช่นนี้มันเกิดขึ้นมา แสดงว่าในขณะนั้น กายท่านเป็นมนุษย์ จิตใจของท่านเป็นเปรต
เปรต แปลว่า ผู้ละไปแล้ว คือละทิ้งทั้งความดี สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ไม่เอาใจใส่
นี่แหละลักษณะของ มนุสสเปโต

...
เมื่อมีจิตใจเป็นเทวดาก็ส่งเสริมความเป็นเทวดาให้ยิ่งๆ ขึ้น
ถ้าในขณะใดรู้ว่าจิตใจของเราเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต เราก็พยายามกำจัดมันเสีย
โดยใช้ มานะ ขันติ ความอดทน หรือข่มจิตข่มใจให้ชนะตนเอง



ref:
http://www24.brinkster.com/thaniyo/phraputto0345.html
http://www24.brinkster.com/thaniyo/phraputto0345_2.html

No comments:

Post a Comment